ประมวลภาพกิจกรรม

Contact Us: admin@ektra.ac.th

กิจกรรมปัจฉิมนิเทศนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564

        เมื่อวันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2565 โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา จัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2564 โดยจัดตั้งแต่เวลา 07.30 -18.00 น. ณ Auditorium อาคาร St. John Baptist โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ พิธีการมอบใบประกาศนียบัตรจบการศึกษา พิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่นักเรียนดีเด่น พิธีอำลาผ้าสก็อต การร่วมปลูกต้นไม้โดยประธานในพิธี ประธานนักเรียนและประธานสีของรุ่น พิธีบายศรี และพิธีอำลาตึก ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ จัดขึ้นเพื่อสร้างความทรงจำดีๆ และให้นักเรียนรำลึกถึงช่วงเวลาต่างๆ ที่ได้ใช้ชีวิตในโรงเรียน นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังได้มอบเกียรติบัตรให้กับนักเรียนที่มีพฤติกรรมดี มีผลการเรียนเด่น เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตัวนักเรียน ตลอดจนกระตุ้นให้ผู้ได้รับรางวัลและนักเรียนคนอื่นๆ ได้ชื่นชมและภาคภูมิใจในความสำเร็จที่เกิดขึ้นด้วย
       ในพิธีดังกล่าว ประธานในพิธี ผอ.พิสุทธิ์ ยงค์กมล ได้ให้โอวาทแก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ดังต่อไปนี้

    โอวาท ผอ.พิสุทธิ์ ยงค์กมล
     การที่มาสเซอร์ให้ทุกคนยืนขึ้นเพื่อไว้อาลัย เกิดจากที่มาสเซอร์ดูข่าวแล้วสะเทือนใจ ทุกครั้งที่เห็นธงชาติยูเครนซึ่งมีสีเดียวกับธงของโรงเรียนเรา มาสเซอร์นึกถึงดวงวิญญาณที่สูญเสีย เร่ร่อน ไม่รู้จะไปไหน และก็ทำให้นึกถึง คำสองคำนี้ คือ โควิด และ ยูเครน
     โควิดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า และมันทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปมาก เราไม่ได้เจอเพื่อน เรามีปัญหากับครอบครัว มีปัญหากับสภาพจิตใจของตัวเราเอง มีปัญหากับพ่อแม่พี่น้อง กับการสื่อสารกับเพื่อน บางครอบครัวมีปัญหาเศรษฐกิจ บางทีพ่อแม่ไม่ได้บอกพวกเธอ แต่มันจะต้องผ่านไปและต้องผ่านไปให้ได้
     อีกเรื่อง คือ สงคราม เราไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ของสงครามจะจบอย่างไร อาจลุกลามเป็นเรื่องราวใหญ่โต ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะจบลงอย่างไร แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ น้ำมันก็ขึ้น ค่าอาหาร ค่าวัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่างแพงขึ้น พวกเธออาจจะต้องกินก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงเรียนถึงชามละ 150-200 บาทก็ได้
     แต่สิ่งหนึ่งที่โชคดีของบ้านเรา เหมือนที่รัชกาลที่ 9 เคยบอกไว้คือ เรามีดิน เรามีภูมิอากาศ เราปลูกข้าว เราปลูกผัก เราเลี้ยงสัตว์ เราเลี้ยงตัวเองได้ เราเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่เลี้ยงตัวเองได้ แล้วพระองค์ท่านก็ใช้คำนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกๆ ของโลก คือคำว่า "Sufficiency" คือ "พอเพียง" "สามารถอยู่ได้" วันนี้ มาสเซอร์อยากบอกพวกเราทุกคนว่าให้อยู่อย่างพอเพียง เก็บเงิน ประหยัดเงิน เราไม่จ่ายออกไปซื้อของออนไลน์ 500 บาท ก็เท่ากับเงินยังอยู่ในกระเป๋าเรา 500 บาท แทนที่เราจะซื้อของ ซื้อเครื่องสำอาง หรือซื้อของมาเล่นเกม หรือซื้ออะไรก็ตาม อันไหนที่ประหยัดได้ตอนนี้ต้องประหยัด
     วันข้างหน้าเราไม่รู้เลยว่าเงินในบัญชีคุณพ่อคุณแม่ของพวกเราจะมีเท่าไร ยกตัวอย่างเพื่อนมาสเซอร์เป็นเจ้าของโรงแรมที่ภูเก็ต เขาบอกมาสเซอร์ว่า ปกติเขาสามารถเคลียร์บัญชีครอบครัวลูกค้าที่เป็นคนรัสเซียได้ทุกอาทิตย์ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เก็บเงินลูกค้าครอบครัวนี้มาสองอาทิตย์แล้ว เพราะทางรัสเซียโอนเงินมาไม่ได้ เพื่อนมาสเซอร์ก็เริ่มลำบากแล้ว และลูกค้าคนนี้ก็ไม่มีเงิน เพราะเขาปิดระบบ swift ทำให้ไม่สามารถโอนเงินรูเบิลจากรัสเซียมาจ่ายเงินค่าโรงแรมได้ "คนที่ฉลาดคือคนที่ออม แต่คนที่ฉลาดมากกว่าคือคนที่ลงทุนแล้วเสี่ยงน้อยที่สุด"
     มาสเซอร์อยากให้พวกเธอศึกษาเพิ่มเติม วิชาอะไรก็ไม่เท่าวิชาการเงิน และวิชารักษาชีวิตตัวเอง ถ้ามีทั้งสองวิชาคือ วิชาอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับการรักษาตัวเองดูแลตัวเองได้ และดูแลเงิน ดูแลทรัพย์สินของตัวเองได้ สองสิ่งนี้ต่อให้เกิดเพทภัย เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอะไรขึ้น พวกเธอก็เอาตัวรอดได้
     มาสเซอร์อยากเห็นพวกเราก้าวหน้า อย่าเรียนแต่ตามที่อาจารย์สอนอย่างเดียว ให้ศึกษาหาความรู้เรื่องการแพทย์ เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัว และศึกษาหาความรู้เรื่องการเงินด้วย นอกจากจะประหยัดเงินแล้ว ยังต้องประหยัดตัวเองด้วย โดยเฉพาะลูกผู้หญิง อย่าเพิ่งรีบโตนัก มีแฟนได้แต่คำว่ารักนวลสงวนตัวก็ต้องคำนึงถึงด้วย สมัยนี้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นมาบางอย่างเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ให้รักษาตัวเองไว้ นักเรียนชาย เราเป็นลูกผู้ชาย พ่อแม่มาสเซอร์สอนไว้ ถ้าเราเป็นลูกผู้ชายจะทำอะไรกับใครให้นึกว่าเขาเป็นน้องสาวหรือพี่สาว และให้ดูแลตัวเอง อย่างน้อยให้จบการศึกษาและไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจ เป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำทุกคน
     ท้ายสุด ผอ.พิสุทธิ์ ยงค์กมล ได้มอบชื่อรุ่นให้กับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 รุ่นนี้ว่า "รุ่นลอยอ่าง" ซึ่งมาจากความประทับใจในพฤติกรรมซุกซนของนักเรียน และยังสอนให้ทั้งนักเรียนหญิงและนักเรียนชายระมัดระวังตัว พยายามรักษาตัวเป็นสำคัญอีกด้วย